Author Archives: admin

ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของ Ulthera

ulthera2

จุดเด่นที่สำคัญที่ทำให้ Ulthera เป็นเครื่องมือที่มีความจำเพาะสำหรับแต่ละบุคคล คือ โปรแกรม SEE and TREAT  โปรแกรมที่ช่วยให้แพทย์สามารถเห็นภาพชั้นผิวหนังที่กำลังได้รับการรักษาผ่านหน้าจอเครื่องได้ตลอดเวลา (Real Time Monitoring System) แพทย์จึงสามารถปรับระดับคลื่นเสียงที่มีระดับพลังงานได้เหมาะสม และมีความจำเพาะในการรักษาได้มากขึ้น Ulthera  จึงส่งผลให้การรักษามีความแม่นยำและปลอดภัยสูง และให้ผลการรักษาที่ดีกว่า

ความรู้สึกขณะได้รับการรักษา

การรักษาแต่ละครั้งจะใช้เวลานานประมาณ 30-90 นาที ขึ้นกับบริเวณที่ทำการรักษา  ผู้ได้รับการรักษาจะรู้สึกอุ่นๆ ที่ใต้ชั้นผิว แสดงได้ถึงพลังงานขนาดเล็กๆ ที่เครื่องส่งผ่านลงไปลึกถึงชั้น SMAS อันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าได้มีการกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนขึ้นแล้ว ภายหลังการรักษาผู้ได้รับการรักษาสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ  โดยไม่ต้องมีการพักฟื้น

ผลลัพธ์ของการรักษาด้วย Ulthera

เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในทันทีหลังการรักษา แนวคิ้วและหางตายกขึ้น กรอบหน้าชัดเจนขึ้น

ผลลัพธ์ที่ดีจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคอลลาเจนใหม่จะมีการสร้างออกมาอย่างต่อเนื่อง

ภายใน 3 เดือน โครงสร้างผิวจะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ (Collagen Remodeling) และอยู่ต่อเนื่องยาวนานกว่า 1-2 ปี

คนที่ได้รับการรักษา จะสามารถรับรู้ถึงผลการรักษาที่ชัดเจนว่า แนวคิ้วยกขึ้น ทำให้ดวงตาดูโตขึ้น, ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ยังสัมผัสได้ถึงผิวที่ตึงกระชับ, ใบหน้ายกได้รูป,  รูขุมขนเล็กลง, ผิวเรียบเนียนขึ้นทั้งบริเวณหน้า และคอ โดยไม่ต้องพึ่งการทำศัลยกรรม

 

สาระพัดประโยชน์จากกันสาด

1374114329dsc01757

ใครว่ามีกันสาดไว้เพื่อ กันแดดและฝนอย่างเดียว ลองสร้างความพิเศษให้กันสาดด้วยการซ่อนท่อน้ำไว้ด้านบน แล้วปล่อยสายน้ำให้ตกลงมายังบ่อน้ำริมระเบียงด้านล่าง เกิดเป็นภาพม่านน้ำสวย ๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ควรเลือกใช้ซี่ระแนงสแตนเลสแทนวัสดุชนิดอื่นเพราะมีความทนทาน และทนน้ำได้ดี

กันสาดต่อเติม

กันสาดที่ยื่นออกมาจาก แนวอาคารมาก ๆ ควรมีเสามารับน้ำหนักเพิ่มเติม โดยแยกโครงสร้างให้ยื่นออกจากอาคารเดิม แล้วตีแนวไม้จันทันฝากน้ำหนักไว้กับเสา เท่านี้ระเบียงก็จะมีกันสาดยื่นยาวออกไปได้ตามต้องการแล้ว

กันสาดนั่งเล่นได้

ต่อเติมกันสาดให้ยื่นออก นอกตัวอาคารด้วยแผ่นไม้ขนาดหน้ากว้าง 15 เซนติเมตร เว้นร่องห่างกัน 2 เซนติเมตร โดยตีแนวคานไม้ให้ห่างกันทุก ๆ ระยะ 60 เซนติเมตร เพื่อช่วยให้กันสาดมีความแข็งแรง นอกจากบังแดดและฝนแล้ว เรายังสามารถขึ้นไปนั่งเล่นหรือใช้งานอื่น ๆ ได้ด้วย

กันสาดเเผ่นเมทัลชีท

เพิ่มความน่าสนใจใต้ กันสาดด้วยการตีไม้ระแนงเว้นร่องให้เป็นช่องระบายอากาศใต้หลังคา ทั้งยังช่วยให้ใต้หลังคาดูน่ามองยิ่งขึ้น โดยเว้นระยะให้แผ่นเมทัลชีทยื่นออกมา 25 เซนติเมตร เพิ่อกันน้ำฝนไหลย้อนลงมาโดนแผ่นไม้

ระแนงไม้

ทำกันสาดจากซี่ไม้ ขนาด 1 X 1 นิ้ว ตีทับแนวผนังและคานไม้ เหมาะกับบ้านสไตล์รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ หรือศาลาพักผ่อนในสวน และเพื่อให้ดูเข้ากับธรรมชาติมากขึ้น แนะนำให้ทาสีย้อมไม้แบบด้านเพื่อโชว์พื้นผิวและลายไม้ที่สวยงาม

กันสาดม่านต้นไม้

เพื่อความร่มรื่นและกรอง แดดได้ในตัว ด้วยการตีไม้ระแนง ขนาด 1 X 4 นิ้ว เป็นแนวยาวเว้นร่องห่างกัน 10 เซนติเมตร แล้วตีโครงไม้ไผ่ทับ เพื่อให้ม่านบาหลีสามารถยึดเกาะ และห้อยรากอากาศลงมาเป็นแนวม่านธรรมชาติ

กันสาดคลาสสิก

นำไม้ระแนง ขนาด 1 X 4 นิ้ว มาวางตั้งตรงห่างกันทุก ๆ ระยะ 20 – 40 เซนติเมตร และเลื่อยปลายไม้ให้มีลักษณะเฉียง 45 องศา รองรับด้วยเสาไม้กลึงสไตล์คลาสสิก แล้วตกแต่งด้วยค้ำยันเหล็กดัดช่วยให้บ้านดูสวยสไตล์ยุโรป

 

 

ประโยชน์ของการเรียนภาษาเยอรมัน

%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7_top-a_tutor1

  1. สำหรับผู้ที่ต้องการติดต่อธุรกิจ เชื่อว่าปัจจุบันคงเป็นที่ทราบกันดีว่า แม้จะมีปัญหาด้านเศรษฐกิจในยุโรป แต่ประเทศเยอรมันเป็นประเทศที่มีสภาพทางเศรษฐกิจแข็งแรงที่สุด สามารถดูแลช่วยเหลือกลุ่มประเทศในยุโรปได้มากที่สุดด้วย ดังนั้นหากต้องการทำธุรกิจประเทศเยอรมันจึงมีความน่าสนใจ และทำให้มั่นใจได้ในเรื่องความมั่นคงในการลงทุนทำธุรกิจ
  2. สามารถศึกษาหาความรู้จากข้อมูลที่เป็นภาษาเยอรมัน เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศเยอรมันเป็นประเทศที่มีการศึกษาเทคโนโลยีระดับสูงมากมายหลายแขนงและเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับว่ามีความก้าวหน้า การที่เราได้ เรียนภาษาเยอรมัน ทำให้เราสามารถเข้าถึงและใช้งานข้อมูลเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ได้เป็นอย่างดี ทำให้เราเข้าใจได้อย่างถ่องแท้จากผู้เป็นต้นกำเนิดแนวคิดได้อย่างชัดเจน
  3. เป็นภาษาที่มีโอกาสสูงในประเทศไทย เนื่องจากเป็นภาษาที่ยังไม่มีผู้เรียนแพร่หลายมากนัก หากว่าเรามีทักษะในภาษาเยอรมัน จะทำให้เป็นที่ต้องการตัวสูง (เรียกว่ามีคู่แข่งน้อยก็ได้ !) และสามารถก้าวหน้าในการทำงานได้อย่างรวดเร็วและง่าย
  4. ทำให้เราได้เปิดโลกทัศน์ เมื่อใช้ภาษาเยอรมันสื่อสารกับผู้ที่ใช้ภาษานี้ เราจะได้มุมมองใหม่ๆ เพิ่มเติม จากการสื่อสารแลกเปลี่ยน ทั้งการสนทนาหรือส่งข้อความติดต่อหากัน เป็นช่องทางที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง
  5. ทำให้เราสามารถเดินทางไปศึกษาต่อในประเทศเยอรมัน ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมความรู้และเทคโนโลยีขั้นสูงหลากหลายแขนงเอาไว้ โดยเฉพาะในเชิงเทคนิคหรือวิศวกรรม ที่สถาบันการศึกษาในประเทศเยอรมันถือว่ามีมาตรฐานสูง

นี่เป็นประโยชน์ที่ทำให้การ เรียนภาษาเยอรมัน เป็นอีกภาษาที่มีความน่าสนใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นการสร้างโอกาสในการเปิดตัวเองต่อผู้คนที่ใช้ภาษาอื่น ทำให้เข้าใจกันมากขึ้น สื่อสารกันได้ดีขึ้น ซึ่งนี่เป็นจุดประสงค์หลักในการเรียนภาษาของคนเรา

 

เครื่องสแกนลายนิ้วมือ Finger Scan ดีอย่างไร

%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad

เครื่องสแกนลายนิ้วมือ คือ ระบบที่ต้องใช้ลายนิ้วมือของผู้ที่ได้รับการอนุญาตหรือบุคคลที่ได้ทำการบันทึกลายนิ้วมือลงไว้ในตัวเครื่องสแกนลายนิ้วมือที่ใช้ควบคุมระบบการทำงานต่างๆซึ่งหากบุคคลใดไม่ได้มีการบันทึกลายนิ้วมือลงไว้ในตัวเครื่องสแกนลายนิ้วมือก็จะไม่สามารถเข้าไปใช้งานระบบที่ต้องมีการสแกนลายนิ้วมือนี้ได้ส่วนระบบที่นำการสแกนลายนิ้วมือเข้ามาใช้ในการควบคุมมีดังนี้ อาทิเช่น

  1. การใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือมาทำเป็นเครื่องลงเวลาการทำงานของพนักงานในบริษัท องค์กรต่างๆเพราะระบบจะทำการระบุตัวบุคคลและเวลาในการสแกนนิ้วเพื่อบันทึกเวลาการเข้าออกได้ดีกว่า และยังป้องกันการลงเวลาแทนกันของพนักงานอีกด้วย
  2. การใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือมาทำเป็น ระบบควบคุมการเข้า-ออกของประตูสถานที่ต่างๆที่ไม่ต้องการให้บุคคลอื่นใดที่ไม่ได้รับอนุญาตผ่านเข้า-ออกทางประตูนั้นๆอาทิเช่น ประตูหน้าเข้า-ออก ห้องบัญชีและการเงิน, ประตูห้องเก็บสินค้า, ประตูห้องควบคุมระบบต่างๆ เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าประโยชน์ของเครื่องสแกนลายนิ้วมือนั้น เหมาะสำหรับทุกธุรกิจ ที่ต้องการบันทึกข้อมูลการทำงานของพนักงาน เพื่อทำการสังเกตพฤติกรรม และเพื่อใช้ในการบริหารธุรกิจของเราให้อยู่รอด และมีผลกำไรมากขึ้น  บางบริษัทใช้ข้อมูลของเครื่องบันทึกเวลาในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรได้อย่างน่าทึ่งมากเลยทีเดียว เรียกได้ว่าชเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก

ข้อควรทราบและปฏิบัติก่อนออกทัวร์ลาว

%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%a7
วันนี้ Wtravel.co.th  เราได้นำข้อควรทราบและปฏิบัติเมื่อเพื่อนๆไปเที่ยวหรือไปทัวร์ลาว  มาให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ เพื่อนๆจะได้ปฏิบัติตัวได้ถูกเวลาที่อยู่ในประเทศลาว  จะได้ไม่ทำผิดกฎหมายหรือผิดธรรมนียมปฏิบัติค่ะ

  1. ควรระมัดระวังหัวข้อสนทนา ควรหลีกเลี่ยงหัวข้อที่เกี่ยวกับการหมิ่นเหม่ต่อการกระทบกระเทือนความรู้สึกของผู้ฟัง เช่น การนำความแตกต่างทางภาษา วิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมมาเปรียบเทียบหรือล้อเลียนในเชิงตลกขบขัน (มีหลายกรณีที่คนได้ได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดจากสื่อบันเทิงเกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาลาวหรือชื่อภาพยนตร์) รวมทั้งงดเว้นการแสดงความคิดเห็นแบบชาตินิยมที่อาจนำไปสู่การโต้เถียงในประเด็นละเอียดอ่อน เช่น ประวัติศาสตร์ การเมือง การปกครอง
  2. ควรเข้าใจว่า สปป.ลาว มีมาตรฐานการดำเนินชีวิต วัฒนธรรมประเพณีในแบบฉบับของชาวลาว การได้มาเยือนถือเป็นโอกาสอันดี จึงควรทราบและปฏิบัติตามกฏหมายและวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวลาว เช่น ควรแต่งกายให้เหมาะกับกาลเทศะ โดยเฉพาะเมื่อไปสถานที่ทางศาสนาและสถานที่ราชการ ควรแสดงความเคารพและกล่าวถึงบุคคลสำคัญของลาวที่ชาวลาวเคารพยกย่องอย่างเหมาะสม
  3. ห้ามพักค้างคืนที่บ้านคนลาวโดยไม่แจ้งต่อนายบ้าน (ผู้ใหญ่บ้าน) ก่อน และการมีเพศสัมพันธ์กับคนลาวที่ไม่ใช่คู่สมรสเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หากละเมิดจะถูกกักตัวจนกว่าจะนำเงินมาจ่ายค่าปรับขั้นต่ำ ๕๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ และถูกส่งกลับประเทศ จึงต้องระวังและหลีกเลี่ยงหากมีการชักชวนให้ไปท่องเที่ยวและซื้อบริการที่ผิดกฏหมายและศีลธรรมอันดี
  4. กิจกรรมที่ห้ามทำ ได้แก่ ห้ามถ่ายภาพสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เช่น ค่ายทหาร สถานีเรดาร์ หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีโดยมีโทษทั้งจำและปรับ คนไทยมักถูกจับกรณีถ่ายรูปสถานที่ที่เกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐบาลลาวมาแล้ว ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

มาทำความรู้จักชุดฉีผาวหรือชุดกี่เพ้ากันเถอะ

%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b9%89%e0%b8%b2

ฉีผาวหรือชุดกี่เพ้าเป็นชุดที่ดัดแปลงมาจากชุดของหญิงชาวแปดกองธงในสมัยราชวงศ์ชิง กี่เพ้าเป็นเครื่องแต่งกายที่เกิดจากการหลอมรวมเป็นหนึ่งของชนชาติต่างๆ ของจีนและถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมการแต่งกายของชาวจีน กี่เพ้าเป็นงานตัดเย็บที่รวมเอาศิลปะหลายแขนงไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นหัตถกรรมการปักลวดลาย ภาพดอกไม้และนกหรือภาพอื่นๆ ซึ่งล้วนสะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของจีน

หากดูตามความหมายของตัวอักษรจีน ฉีผาวหรือชุดกี่เพ้านั้นโดยมากมักหมายถึงชุดเสื้อคลุมยาว เมื่อผ่านวิวัฒนาการมาหลายยุคหลายสมัยจนมาถึงสมัยราชวงศ์ชิง จึงได้มีการตีความหมายจากตัวอักษรคำว่าฉีผาวว่าหมายถึงชุดเสื้อคลุมยาวที่ชาวกองธงทั้งชายและหญิงสวมใส่ (“ฉี” แปลว่า ธง “ผาว” แปลว่า ชุดเสื้อคลุมยาว) แต่ชุดกี่เพ้าในยุคต่อมานั้นพัฒนามาจากชุดเสื้อคลุมยาวที่หญิงชาวแปดกองธงสวมใส่ ต่อมาหญิงชาวฮั่นได้แต่งตัวเลียนแบบหญิงชาวแมนจู ในทางกลับกันหญิงชาวแมนจูและหญิงชาวมองโกลก็แต่งตัวเลียนแบบหญิงชาวฮั่นเช่นกัน การเลียนแบบกันไปมาทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างการแต่งกายของหญิงชาวแมนจูและหญิงชาวฮั่น การแต่งกายของหญิงสองชนชาติจึงคล้ายคลึงกันมากขึ้นตามลำดับ จากนั้นจึงค่อยๆ พัฒนาเป็นกลายชุดกี่เพ้ายุคแรกที่เป็นที่นิยมทั่วประเทศจีน ต่อมาเมื่อเครื่องแต่งกายแบบตะวันตกแพร่หลายเข้ามาในประเทศจีน ก็ได้มีการดัดแปลงชุดกี่เพ้าให้เข้ากับลักษณะเด่นของชุดแบบตะวันตกกลายเป็นชุดกี่เพ้าแบบใหม่ที่เรียบง่ายและแพร่หลายสู่คนทั่วไปมากขึ้น

ฉีผาวหรือชุดกี่เพ้าในปัจจุบันเป็นชุดที่ออกแบบไปตามแฟชั่นมากขึ้น แต่สีของชุดกี่เพ้าก็ยังคงเป็นสีแบบชุดกี่เพ้าโบราณ เช่น ชุดกี่เพ้าที่ใช้สีแดงสด สีเขียวสดและสีฟ้าสดตัดกับสีแดงและสีดำ นอกจากนี้ยังมีการนำผ้าหลายชนิดมาใช้ในการตัดเย็บและมีรูปแบบหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นชุดกี่เพ้าสั้น ชุดกี่เพ้ายาว หรือชุดกี่เพ้าที่ออกแบบตามฤดูกาลทั้งสี่ ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว

เสริมหน้าอกที่ไหนดี แบบราคาเบาๆต้องที่นี่เลย

%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%ad%e0%b8%81

การศัลยกรรมหน้าอกถือว่าเป็นอีกหนึ่งการศัลยกรรมที่ทุกวันนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย สำหรับใครที่กำลังมองหาว่าจะเสริมหน้าอกที่ไหนดีนั้น  โดยลองเปรียบเทียบกับสมัยก่อน ใครที่จะไปทำหน้าอกได้ ทั้งต้องรวยมาก กล้ามาก และต้องอดทนมากอีกด้วย ก็เพราะสมัยก่อนทั้งแพง ทั้งเจ็บ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ยังไม่ก้าวไกลเหมือนอย่างในปัจจุบัน และะยังต้องแบกรับกับคำพูดจากการไม่ค่อยยอมรับจากสังคม แต่ปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนไป ศัลยกรรมหน้าอกเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายทั้งชายและหญิงทั้งราคาที่เข้าถึงง่าย เจ็บตัวน้อย และสังคมที่เปิดกว้างยอมรับได้แล้ว

ในสมัยนี้มีหมอเก่ง ๆ ด้านศัลยกรรมหน้าอกมากขึ้น อย่างที่ดังๆที่สาวแท้สาวเทียมเลือกที่จะไปอัพไซต์ก็ต้องที่ bcsclinic.com เพราะแค่ฟังชื่อก็ต้องร้องอ้อกันแล้ว สำหรับข้อดีของที่นี่จะเหมาะมากกับคนที่มีงบประมาณค่อนข้างมีจำกัด ซึ่งราคาศัลยกรรมหน้าอกของคลินิกนี้จะอยู่ที่แค่ประมาณหลักหมื่นจนถึงหลักครึ่งแสนเท่านั้นและต้องบอกว่าก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติมขึ้นมาอีก เรียกว่างบไม่บานปลายเหมือนอย่างคลินิกอื่น แถมความสวยงามของหน้าอกก็ไว้ใจได้ ทำออกมาแล้วดูธรรมชาติเสมือนของจริงมากๆ ไม่ใช่แบบแข็งทื่อๆ ดูรู้ว่านี่นมปลอม

สำหรับใครที่จะไปทำที่นี่แนะนำให้โทรไปจองล่วงหน้าเพราะอาจต้องรอคิวบ้าง แต่การจองไม่ต้องมีการมัดจำ แต่หากใครอยาก walk-in ไปก็ได้เหมือนกันแต่คงไม่ได้รับบริการเลย เพราะการเสริมหน้าอกต้องอาศัยความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจด้วย ต้องมีการพูดคุยรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน

 

เงื่อนไขสำหรับการรับประกันการเดินทาง

%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87

1. ผู้ขอเอาประกันการเดินทางต้องมีถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทย

2. ผู้ขอเอาประกันภัยการเดินทางจะต้องมีสุขภาพแข็งแรงและสมบูรณ์ ไม่มีอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งผิดปกติ พิการ บกพร่อง และไม่ได้เดินทางเพื่อการรักษาพยาบาลใดๆ

3. ผู้ขอเอาประกันภัยการเดินทางจะต้องเริ่มต้นเดินทางจากประเทศไทยและต้องเดินทางกลับประเทศไทยเท่านั้น

4. แผนประกันแบบรายเที่ยว รับประกันอายุ 1-75 ปีบริบูรณ์ แผนประกันแบบรายปี รับประกันอายุ 15-65 ปี บริบูรณ์

5. แผนประกันแบบรายปี คุ้มครองการเดินทางสูงสุด 120 วันต่อการเดินทางในแต่ละครั้ง โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี

6. กรณีผู้ขอเอาประกันภัย อายุ 1-14 ปีบริบูรณ์ จะได้รับความคุ้มครองสูงสุดในทุกแผนการประกันภัย คือ

– การเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุ จำนวน 1,500,000 บาท

– ค่ารักษาพยาบาลระหว่างการเดินทางในต่างประเทศ จำนวน 2,000,000 บาท

ข้อยกเว้นสำคัญสำหรับประกันการเดินทาง

– สงคราม การรุกราน การกระทำที่มุ่งร้ายของศัตรูต่างชาติ หรือการกระทำที่มุ่งร้ายคล้ายสงคราม สงครามกลางเมือง การปฏิวัติ การจลาจล การนัดหยุดงาน การก่อความวุ่นวาย หรือต่อต้านรัฐบาล การประกาศกฎอัยการศึก

– ผู้เอาประกันการเดินทาง เป็นหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหัวใจ , ปอด , ความดัน , เนื้องอกร้ายแรง หรืออาการที่เกี่ยวเนื่อง

– ผู้เอาประกันภัยฆ่าตัวตาย พยายามฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายร่างกายตนเอง

– การระเบิดของกัมมันตภาพรังสี หรือส่วนประกอบของนิวเคลียร์ หรือวัตถุอันตรายอื่นใดที่อาจเกิดการระเบิดในกระบวนการนิวเคลียร์ได้

– กรณีที่ผู้เอาประกันภัยเดินทางอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุรา ยาเสพติด สารเสพติดให้โทษ

– ขณะที่ผู้เอาประกันภัย ปฏิบัติหน้าที่เป็นนักบิน , พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน , ทหาร , ตำรวจ หรืออาสาสมัคร และเข้าปฏิบัติการในสงคราม หรือปราบปราม

ทาง MSIG Travel Easy มีการบริการสำหรับประกันการเดินทาง หลากหลายราคาให้คุณได้เลือก สามารถใช้บริการและอ่านรายละเอียดได้ที่ www.uob.co.th/th/msig/msig.html

แนะนำการเสร้างอาชีพจากการเป็นช่างกุญแจ

2

สำหรับการสอนช่างกุญแจ ใช้เวลาเรียน 2 วันเรียน มีรายละเอียด ดังนี้

วันแรก เรียนรู้จรรยาบรรณวิชาชีพช่างกุญแจ ประวัติกุญแจ ที่มาที่ไปตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน อุปกรณ์จำเป็นพื้นฐานสำหรับช่างกุญแจ อุปกรณ์พิเศษสำหรับช่างกุญแจโดยเฉพาะ

การทำลูกกุญแจสำรองใหม่เมื่อทำลูกหาย แบ่งกลุ่มปฏิบัติทำลูกกุญแจสามห่วง และลูกกุญแจลูกบิด ในกรณีสร้างลูกใหม่ การตะไบลูกกุญแจสำรองใหม่ด้วยตะไบ (กุญแจสามห่วง) การสร้างลูกกุญแจใหม่แบบลูกบิด 2 หน้า และการถอดประกอบ (ระบบเขี้ยวแบนเป็นแผ่น) ขั้นตอนการทำกุญแจมอเตอร์ไซค์ (กรณีลูกกุญแจหล่นหาย สูญหาย) การส่องเขี้ยว เพื่อทำลูกกุญแจใหม่รถมอเตอร์ไซค์ ฝึกปฏิบัติการส่องเขี้ยวเพื่อทำลูกกุญแจใหม่รถมอเตอร์ไซค์

วันที่สอง ขั้นตอนการทำกุญแจสำรองจากเครื่อง กุญแจทั่วไป (ใช้อุปกรณ์ตัดด้านซ้ายของเครื่อง) กุญแจรถยนต์ กุญแจมอเตอร์ไซค์ กุญแจบ้าน กุญแจตู้เอกสาร และเฟอร์นิเจอร์

กุญแจสี่เหลี่ยม และครึ่งวงกลม ใช้อุปกรณ์ตัดด้านขวาของเครื่อง (กุญแจ Solo กุญแจ Solex) การสร้างลูกกุญแจสี่เหลี่ยม และครึ่งวงกลมในกรณีลูกกุญแจต้นแบบสูญหาย รวมไปถึงขั้นตอนการทำกุญแจรถยนต์กรณีลูกกุญแจต้นแบบสูญหาย และการเปิดประตูรถยนต์ทุกชนิด โดยใช้วิธีกดเขี้ยว โดยใช้เหล็กสปริง ฝึกเปิดประตูรถยนต์

แค่นี้คุณก็สามารถเป็นช่างกุญแจมืออาชีพได้แล้วค่ะ

 

Pressure Safety Valve (วาล์วนิรภัย) VS Pressure Relief Valve (วาล์วลดแรงดัน)

%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a5

วันนั้น  http://www.nssteel.co.th/ จะพามาทำความรู้จักกับวาล์วนิรภัย  และวาล์วลดแรงดัน  โดยอุปกรณ์วาล์ว ทั้ง 2 ตัวนี้เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยของระบบ มีหน้าที่หลักคือระบายแรงดันภายในระบบออก ซึ่งจะทำงานเองโดยอัตโนมัติเมื่อมีแรงดันเกินกว่าค่าที่ตั้งไว้ วาล์วทั้งสองชนิดมีความแตกต่างกันด้านการใช้งาน กล่าวคือ Pressu/re Safety Valve จะใช้กับของเหลวที่บีบอัดได้ (Compressible Fluid) เช่น ไอน้ำ หรือ ก๊าซ ซึ่งต้องการระบายความดันอย่างรวดเร็ว สำหรับ Pressure Relief Valve จะใช้กับของเหลวที่บีบอัดไม่ได้ (Non Compressible Fluid) เช่น น้ำ หรือ น้ำมัน ซึ่งจะระบายความดันอย่างช้าๆ

อุปกรณ์วาล์ว ทั้ง 2 ตัวนี้เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยของระบบ มีหน้าที่หลักคือระบายแรงดันภายในระบบออก ซึ่งจะทำงานเองโดยอัตโนมัติเมื่อมีแรงดันเกินกว่าค่าที่ตั้งไว้ วาล์วทั้งสองชนิดมีความแตกต่างกันด้านการใช้งาน กล่าวคือ Pressure Safety Valve จะใช้กับของเหลวที่บีบอัดได้ (Compressible Fluid) เช่น ไอน้ำ หรือ ก๊าซ ซึ่งต้องการระบายความดันอย่างรวดเร็ว สำหรับ Pressure Relief Valve จะใช้กับของเหลวที่บีบอัดไม่ได้ (Non Compressible Fluid) เช่น น้ำ หรือ น้ำมัน ซึ่งจะระบายความดันอย่างช้าๆ โดยวาล์วทั้งสองชนิดมีส่วนประกอบที่คล้ายคลึงกันได้แก่

1.Valve Body: ส่วนใหญ่ผลิตจากเหล็กหล่อ หรือ วัสดุอื่นตามการใช้งาน โดยเป็นโครงสร้างที่ใช้ติดตั้งกับท่อหรือถังความดันที่จะทำการปกป้อง

2.Disc: ลักษณะเป็นแผ่นกลมที่ใช้กดปิดกั้งของเหลวไว้ โดยอาศัยแรงกดจากสปริง โดย Disc นี้จะทำหน้าที่รับแรงดันไว้ทั้งหมด

3.Stem: เป็นส่วนที่รับแรงกดจากสปริงและส่งแรงกดไปยัง Disc โดยมีหน้าที่เป็นแกนบังคับให้ส่วนที่เคลื่อนไหว เคลื่อนที่ตามแนวแกน

4.Spring:  เป็นส่วนที่ก่อให้เกิดแรงดันต้านทานความดันที่ Disc การปรับ Adjust Screw ให้สปริงยืดหดตัวแตกต่างกันส่งผลให้แรงกดที่ Disc มีค่าแตกต่างกัน จึงเป็นหลักการสำคัญที่ใช้กำหนดค่าความดันที่จะให้วาล์วทำการระบาย (Set Pressure)

  1. Adjust Screw: ใช้ปรับระยะยืด หด ของสปริง จุดนี้เองที่ใช้ทำการปรับตั้งค่าความดัน

การทำงานของ Pressure Safety Valve โดยทั่วไปเพียงแค่เมื่อความดันภายในท่อหรือถังมีค่ามากกว่า Set Pressure แรงจากความดันที่กระทำต่อ Disc จะมีค่ามากกว่าแรงที่กดจากสปริง ทำให้ Disc เกิดการยกตัวขึ้น และระบายความดันส่วนเกินออกมา เมื่อความดันภายในระบบลดลงแล้ว Disc ก็จะเคลื่อนที่เข้าสู่ตำแหน่งและรับความดันภายในเช่นเดิม

ข้อควรรู้ก่อนทำและหลังทำตาสองชั้น

 

%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99-1

 

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดตาสองชั้น

เนื่องจากเป็นการทำผ่าตัดโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องดมยาสลบ จึงไม่ต้องอดอาหาร แต่ไม่ควรใช้เครื่องสำอางใดๆในบริเวณใบหน้า เพราะจะทำให้ยากต่อการเช็ดออกก่อนทำผ่าตัด ตลอดจนเป็นบ่อเกิดการติดเชื้อโรคได้ อีกกรณีคือ หากผู้ป่วยมีการรับประทานยาห้ามเลือด ยาลดการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน ควรหยุดรับประทาน 7-10 วัน เพราะอาจเป็นเหตุให้เลือดออกง่าย และออกมากกว่าปกตินั้นเอง

อาจจะสระผมก่อนมาผ่าตัด เพราะหลังการผ่าตัดเราอาจจะสระผมไม่สะดวก และควรงดการทำงานหรือออกกำลังกายหนัก ที่อาจพลาดพลั้งถูกแผลผ่าตัด แต่ถ้าหากเป็นงานเบาๆ ก็ยังพอทำได้หลังผ่าตัด 1-2 สัปดาห์ ตาทั้ง 2 ข้าง จะบวม มากบ้างน้อยบ้าง และควรงดใช้เครื่องสำอางบริเวณตาจนกว่าแผลจะหายสนิท ซึ่งมักจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์

วิธีดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมตา

  1. ในวันผ่าตัดไม่ควรขับรถไปเอง ควรมีผู้ติดตามไปด้วย เพราะเมื่อผ่าตัดเสร็จผู้ป่วยจะยังใช้สายตาไม่สะดวก
  2. พกแว่นกันแดดติดตัวไปด้วยในวันผ่าตัด เพื่อใช้อำพรางดวงตาและป้องกันแสงแดด
  3. นอนหนุนหมอนสูง 2-3 ใบ ในช่วงวันแรกหลังผ่าตัด
  4. ในช่วง 3 วันแรกหลังผ่าตัด ให้ประคบเย็นที่บริเวณหน้าผากและรอบดวงตา โดยประคบ 15 นาที เว้น 15 นาที เพื่อช่วยห้ามการไหลซึมของเลือดที่จะซึมมาตลอดหลังการผาตัด
  5. ทานยาแก้อักเสบและลดบวม หากเกิดอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ หลีกเลี่ยงการดื่มของมึนเมา เนื่องจากจะมีผลทำให้แผลหายช้าและนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
  6. หลังการผ่าตัด 24 ชั่วโมง สามารถทำความสะอาดแผลได้ โดยใช้สำลีก้อนชุบน้ำอุ่นเช็ดเบาๆ บริเวณแผลที่เปลือกตาและซับให้แห้ง แล้วทายาเคลือบแผลตามแพทย์สั่ง
  7. ผู้ป่วยไม่ควรล้างหน้าในช่วง 3 วันแรกหลังทำ เพื่อให้แผลแห้งและหายเร็ว
  8. พยายามอย่ากะพริบตาถี่เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบวม
  9. ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะมีผลต่อการเพิ่มความดันในดวงตา เช่น การเล่นกีฬาทุกประเภท การก้ม การยกของหนักหรือแม้แต่การร้องไห้ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการออกแดด และสวมแว่นกันแดดเสมอจนกว่าแผลจะหายเป็นปกติ
  10. ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทุกอย่างที่ต้องใช้สายตา เช่น อ่านหนังสือนานๆ การใช้คอมพิวเตอร์ และการใส่คอนแทคเลนส์ เนื่องจากทำให้ตาแห้งได้
  11. ไม่ควรขยี้ตาแรงในช่วง 3 สัปดาห์แรกหลังจากทำ บางคนอาจจะมีขี้ตามากกว่าปกติ และรู้สึกตึงหนังตาบนบ้าง ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายเป็นปกติภายใน 1 สัปดาห์
  12. ในช่วงแรก ชั้นตาจะยังดูบวม หนา ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งจะค่อยๆ ยุบลงไปเรื่อยๆ แล้วจะสามารถเห็นชั้นตาที่สวยงามในสัปดาห์ที่ 4 และจะหายสนิทในระยะเวลา 1 – 3 เดือนหลังผ่าตัด

แนวโน้มการทำธุรกิจแฟรนไชส์คณิตศาสตร์

7-1

ปัจจุบันถือได้ว่า ธุรกิจแฟรนไชส์คณิตศาสตร์ ยังมีแนวโน้มการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งไทยต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเกิดขึ้นของประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ซึ่งเกรงว่าเมื่อเปิดตลาดแรงงานเสรีในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนแล้ว จะมีแรงงานจากอาเซียนมากมายเข้ามาแย่งงานแรงงานไทย ทำให้งานหายากขึ้น ดังนั้นการศึกษาไทยจะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ความต้องการด้านศึกษาก็จะมากขึ้นตามมาด้วย จึงทำให้ธุรกิจการศึกษานั้นเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ ทั้งนี้ผู้ประกอบการ หรือผู้ที่สนใจที่จะลงทุนควรที่จะศึกษาถึงความต้องการ และความเป็นไปได้ในอนาคต ว่าความต้องการของลูกค้าคืออะไร

แฟรนไชส์คณิตศาสตร์ที่นำเรานำมาแนะนำกันวันนี้คือ “แฟรนไชส์คณิตศาสตร์ จาก smart-kids.net ” ซึ่งเป็นสถาบันกวดวิชาที่เน้นสอนวิชาคณิตศาสตร์โดยเฉพาะ เพื่อเป็นการเพิ่มความรู้ความสามารถ หรือที่เรียกง่ายๆก็คือการเพิ่มเกรดนั่นเอง

เพราะวิชาคณิตศาสตร์คือรายวิชาที่มีความสำคัญอย่างมากในประเทศของเรา เรียกได้ว่าเป็นวิชาหลักอีกหนึ่งวิชาที่จะใช้การเข้าเรียน สมัครงาน หรืออื่นๆ ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดสถาบันกวดวิชา ที่เน้นแต่เรื่องของคณิตศาสตร์ทำให้หลายคนที่มีเป้าหมายจะสอบเข้าทำงานบัญชี หรือสอบเข้าคณะบัญชี เพื่อศึกษาต่อมีความสนใจและต้องการเข้าร่วมมากยิ่งขึ้น

ทางด้านของการศึกษานั้นจะเน้นแต่วิชาคณิตศาสตร์อย่างเดียว จึงทำให้ผู้เรียนได้รับความรู้และประโยชน์อย่างเต็มที่ที่สุด

เคล็ดลับสแลนกรองแสงกับการเลือกใช้งานให้เหมาะสมในงานเกษตรกรรม

23

เนื่องด้วยในตลาดมีแสลนกรองแสง หรือ ตาข่ายกรองแสง จำหน่ายอยู่มากมายหลายสี หลายแบบ ทำให้บางคนเลือกใช้แสลนไม่ถูก ไม่รู้จะใช้แบบไหนดี หรือนำมาใช้แล้วประสิทธิภาพของกรองแสงที่ได้ไม่ตรงตามความต้องการใช้งาน

ในการเลือกใช้งาน แสลนกรองแสง หรือ ตาข่ายกรองแสง ให้มีประสิทธิภาพตรงตามความต้องการ นั้นต้องทำอย่างไร จึงทำให้มีหลายคนเกิดคำถามขึ้นมาว่า แล้วจะเลือกใช้แสลนแบบกรองแสงกี่เปอร์เซ็นต์ดี? หรือเลือกใช้แสลนสีไหนดี?

เช่นนั้นแล้ว kongsawat.com จึงมีเคล็ดลับในการเลือกใช้งาน แสลนกรองแสง หรือ ตาข่ายกรองแสง สำหรับงานเกษตร มาฝากครับ

หน้าที่ของแสลนกรองแสงนั้นคือการลดทอนความเข้มแสงให้บางเบาลงเพื่อไม่ให้พืชนั้นได้รับแสงมากจนเกินไป การเลือกเปอร์เซ็นต์ในการกรองแสงของแสลนก็จะขึ้นอยู่กับชนิดของพืช กับช่วงอายุของพืชที่เราปลูกครับ เช่น ในช่วงของการเพาะเมล็ด จนถึงช่วงอนุบาลกล้าก็ต้องใช้การกรองแสงมากหน่อยประมาณ 70% ถึง 80% ครับ และเมื่อต้นกล้ามีอายุมากขึ้น จนสามารถย้ายลงแปลงเพาะปลูกได้นั้น ปริมาณแสงที่ได้รับก็ต้องเพิ่มขึ้น เราอาจจะใช้กรองแสงแค่ประมาณ 50% ถึง 60% ก็เพียงพอต่อความต้องการของพืชแล้วล่ะครับ และหากว่าชนิดพืชที่ปลูกนั้น เป็นพืชจำพวกที่ไม่ชอบแสงจัด ต้องการร่มเงา อย่างเช่น กล้วยไม้ พืชกลุ่มนี้ไม่ต้องการแสงปริมาณมากๆ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องใช้กรองแสงในปริมาณที่สูงขึ้นซัก 80% กำลังดีครับ

หากต้องการใช้แสลนที่ปริมาณกรองแสงน้อยกว่า 50% นั้น หรือปริมาณกรองแสงที่ไม่มีขาย เราสามารถทำได้ง่ายๆครับ เช่น ต้องการปริมาณกรองแสงที่ 25% ก็ให้หาแสลนกรองแสงแบบ 50% มาสองผืน ขึงกางซ้อนกัน โดยให้เว้นระยะห่างระหว่างผืนซักประมาณ 1 ไม้บรรทัด (12 นิ้ว) ครับ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ปริมาณกรองแสงที่ใกล้เคียงกับ 25% แล้วล่ะครับ

และอีกเรื่องคือ สีของแสลน ที่มีทั้ง สีดำ และ สีเขียว แล้วเราควรจะใช้สีอะไรดีล่ะ? ทั้ง 2 สีนั้นมีความแตกต่างกันในเรื่องของสีกับแสงและความรู้สึกครับ กล่าวคือ สีดำจะไม่ไปตัดทอนค่าความยาวของคลื่นแสง แสงที่ลอดผ่านแสลนสีดำนั้น จะเป็นแสงขาวเหมือนที่เราเห็นทั่วไป แต่แสลนสีอื่นจะสะท้อนตัดทอนค่าความยาวของคลื่นแสงที่เป็นสีเดียวกับสีของแสลนนั้นออกไป และพืชก็ต้องการแสงสีน้ำเงินและแดงเป็นหลัก ซึ่งรวมอยู่ในแสงขาวอยู่แล้ว ถ้าแสงสีเหล่านี้ถูกตัดทอนออกไปก็จะมีผลต่อการสังเคราะห์แสง จนถึงการเจริญเติบโตของพืชครับ ส่วนแสลนสีเขียวนั้นเราจะเห็นคนเลือกใช้กันเยอะมากกว่าสีดำ นั่นก็เพราะว่า ประเด็นหนึ่งเลยคือแสลนสีดำเก็บความร้อนดีกว่าสีเขียว ตามคุณสมบัติของสีดำ ซึ่งส่งผลให้ในระยะยาวแสลนสีดำนั้นจะพุพังเสื่อมคุณภาพเร็วกว่าสีเขียวนั่นเองครับ

แต่ทั้งนี้ข้อมูลการเปรียบเทียบทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับความแตกต่างของสีแสลนนั้น ก็ยังไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมากเท่าไรนัก อยู่ที่ตัวผู้ใช้เองกับความรู้สึกที่มีต่อสีซะมากกว่า

นอกจากนี้ประโยชน์ของ แสลน หรือ ตาข่ายกรองแสง ยังช่วยในเรื่องของการลดความแรงตกกระทบของเม็ดฝนที่อาจจะทำให้ใบของพืชช้ำได้ และเวลาขึงแสลนควรจะขึงให้มันตึงที่สุดเท่าที่จะตึงได้ เพราะว่าการขึงให้ตึงนั้นมันจะช่วยป้องกันการกระพือได้ อีกอย่างคือลดการอุ้มน้ำ (น้ำขัง) เวลาเจอฝนตกได้ครับ

 

ประเทศไทยจะได้ประโยชน์อะไรจากอาเซียน

%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%8b%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99

1. ไทยตั้งอยู่ในจุดกึ่งกลางบนภาคพื้นแผ่นดินใหญ่อาเซียน ประเทศไทยย่อมได้รับประโยชน์จากปริมาณการคมนาคมขนส่งที่จะเพิ่มขึ้นในอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับจีน (และอินเดีย) มากยิ่งกว่าประเทศอื่นๆ ประชาคมอาเซียนจะได้รับผลทั้งด้านบวกและลบต่อประเทศไทยขึ้นอยู่กับพวกเราคนไทยจะเตรียมตัวอย่างไร แต่ผลทางบวกนั้นจะชัดเจนเป็นรูปธรรมและจับต้องได้

2. เมื่อเข้าสู่ อาเซียน ตลาดของเราจะใหญ่ขึ้น กลายเป็นตลาดของคนทั้ง 590 ล้านคน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจ เพราะสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยสามารถส่งออกไปยังอีก 9 ประเทศได้เหมือนกับส่งไปขายต่างจังหวัด

3. ประเทศไทยจะมีหน้ามีตาและฐานะเด่นขึ้น ประชาคมอาเซียนจะทำให้มีขนาดใหญ่อันดับ 9 ของโลก ยังคงมีประโยชน์แก่คนไทยทุกคนที่จะได้ยืนอย่างสง่างามและยิ้มแบบสยามจะเห็นได้อย่างชัดขึ้น

4. ความเป็นประชาคมจะทำให้มีการพัฒนาเครือข่ายการสื่อสารคมนาคมระหว่างกันเพื่อประโยชน์ด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งก็จะช่วยให้คนในอาเซียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน รู้จักกัน และสนิทแน่นแฟ้นกันมากขึ้น เป็นผลดีต่อประเทศ ความเข้าใจอันดีงามและความร่วมมือกันโดยรวมนับเป็นผลทางความสร้างสรรค์ในหลายมิติด้วยกัน

5. การค้าระหว่างไทยกับประเทศอาเซียนจะคล่องและขยายตัวมากขึ้น กำแพงภาษีจะลดลงจนเกือบจะหมดไป เพราะ 10 ตลาดกลายเป็นตลาดเดียว ผู้ผลิตจะส่งสินค้าไปขายในตลาดนี้และขยับขยายธุรกิจของตนเองง่ายขึ้น ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็จะมีทางเลือกมากขึ้นราคาสินค้าก็จะถูกลง

การพัฒนาของทัวร์สิงคโปร์

singapore-merlionการทัวร์สิงคโปร์เริ่มพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ในช่วงหลังการได้รับเอกราช เนื่องด้วยต้องการสร้างความเข้มแข็งของรัฐ-ชาติตน เพราะสิงคโปร์เป็นประเทศเล็กและมีปัญหาเรื่องความหลากหลาย ทางเชื้อชาติ สิงคโปร์จึงสร้างความเป็นชาตินิยมผ่านทางเศรษฐกิจ โดยไม่สนใจการพัฒนาทางการเมืองมากนัก การพัฒนาทางการเมืองของสิงคโปร์เน้นเฉพาะเรื่อง เชิงโครงสร้าง-หน้าที่ การเมืองเชิงสถาบัน แต่ยังบกพร่องในเรื่องการมีส่วนร่วมทางการเมือง ชนชั้นนำทางการเมืองสิงคโปร์สร้างความเป็นชาติผ่านอุดมการณ์เพื่อส่วนรวม และชี้ให้เห็นถึงความเลวร้ายของแนวคิดปัจเจกชนนิยม ทั้งยังใช้กลไกรัฐเชิงบังคับและเชิงอุดมการณ์เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการกล่อมเกลาและกาจัดการเคลื่อนไหวต่อต้าน จะเห็นได้ว่าบทบาทรัฐของสิงคโปร์นั้นมีความโดดเด่นและสำคัญมาก รัฐมีบทบาทนาอย่างมากในการพัฒนาและสร้างอุดมการณ์ครอบงำการพัฒนาแบบทุนนิยม

ชนชั้นนำสิงคโปร์ต่อต้านการเคลื่อนไหวของพรรคคอมมิวนิสต์มีการปราบปรามฝ่ายซ้ายอย่างรุนแรง ชนชั้นนำสิงคโปร์เลือกแนวทางการพัฒนาแบบทุนนิยมเสรีโดยอยู่เคียงข้างสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่ในอดีต จนถึงปัจจุบัน ในทางเศรษฐกิจนั้น ศาสตราจารย์ คุนิโอะ เสนอว่า ทุนนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่มีประสิทธิภาพ เป็นทุนนิยมเทียม เพราะ รัฐแทรกแซงอย่างไร้ประสิทธิภาพ มีเทคโนโลยีต่าและไม่สอดรับทิศทางการพัฒนา รวมทั้งการกีดกันทางการเมืองกับเศรษฐกิจบนพื้นฐานของความต่างทางเชื้อชาติ คุนิโอะเสนอว่า ไม่สามารถมองสิงคโปร์ซึ่งมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและมีความเจริญสูงมาก ว่าเป็นรูปแบบที่ถูกต้องของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศนี้ไม่ใช่แบบอย่างประเทศทุนนิยมอุตสาหกรรม เพราะนายทุนที่มีความสามารถในการผลิตส่งออกส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ สิงคโปร์ไม่สามารถสร้างระบบพลวัตรทุนนิยมของตนเองได้เพราะพึ่งทุนต่างชาติมาก แม้จะมีเทคโนโลยีดี ไม่กีดกันเรื่องเชื้อชาติ และมีการแทรกแซงระบบตลาดได้มีประสิทธิภาพกว่าหลายๆประเทศในเอเชียก็ตาม บทบาทรัฐนาการพัฒนาในการทัวร์สิงคโปร์จึงมีความชัดเจนมาก เพราะรัฐบาลกลายเป็นผู้ถือหุ้นและนักลงทุนรายใหญ่ในธุรกิจต่างๆจานวนมาก ทุนนิยมในสิงคโปร์เป็นทุนนิยมที่เสรีแต่ถูกจากัดอย่างมากในทางการเมือง เศรษฐกิจในสิงคโปร์เป็นเศรษฐกิจที่เน้นภาคการเงินและการบริการมากกว่าภาคการผลิตที่เป็นจริง http://singaporeholidaytour.com/